หากใครติดภาพจำมาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง As the Gods Will (2014) เกมเทวดาฆ่าไม่เลี้ยง แน่นอนว่าหลายคนอาจเห็นตุ๊กตากลมๆ สีแดงที่มีหน้าตาประหลาดๆ หน้าตาน่ากลัวมาก ไม่มีแขนและขาเหมือนตุ๊กตาแบบอื่นๆ
ผู้เขียนมองว่ามันไม่ได้มีความน่ากลัวเหมือนภาพยนตร์ตีความอย่างที่คิดสักเท่าไหร่ ในบทความนี้จะมาทำความรู้จักกับดารุมะแบบจริงๆ จังๆ โดยไม่มองว่าดารุมะนั้นสยองขวัญเหมือนในภาพยนตร์แต่อย่างใด ซึ่งมันเป็นเครื่องรางที่ให้ความมงคลในชีวิตตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะอธิบายผ่านบทความเกี่ยวกับดารุมะได้ดังนี้
ที่จริงแล้วดารุมะก็คือตุ๊กตากลมๆ ไม่มีแขนขา แต่ทำมาจากไม้ ซึ่งโดยส่วนมากตุ๊กตาดารุมะมักจะทำมาจากกระดาษ แต่ที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เพราะหน้าตาที่แต่งให้มีความน่ากลัวนี่แหล่ะ (ในภาพยนตร์จะเอาความน่ากลัวเป็นจุดขายในความสยองมากกว่า)
ถ้ามองลึกๆ มันมีความหมายดีๆ ซ่อนอยู่ เพราะว่าตุ๊กตาดารุมะเป็นตัวแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเชื่อกันว่าเป็นตัวแทนพระโพธิธรรม ซึ่งจะไม่มีดวงตา ถ้าอยากขอพรแล้วสมหวังจากตุ๊กตาดารุมะนั้น จะต้องเขียนดวงตาให้ตุ๊กตาดารุมะข้างหนึ่งก่อนอธิษฐานขอพร
เรื่องขอพรถ้าประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจแล้ว ค่อยเติมดวงตาอีกข้างให้ครบถึงจะสมบูรณ์ ส่วนใหญ่ที่ใครหลายคนเห็น ตุ๊กตาดารุมะมักจะเป็นสีแดง ตามตำนานบอกว่าพระโพธิธรรมท่านสวมเสื้อผ้าสีแดง ในสมัยก่อนเชื่อว่าสีแดงช่วยขจัดมารร้าย และช่วยขจัดปัดเป่าเชื้อโรคฝีดาษ (ไข้ทรพิษ) เนื่องจากเชื่อว่าเทพฝีดาษที่เป็นผู้ทำให้เกิดโรคร้ายนั้นไม่ชอบสีแดงเลย
เพราะเหตุนี้คนญี่ปุ่นจะมีการมองตุ๊กตาดารุมะให้เด็กๆ เป็นของเล่น เพื่อดารุมะจะได้คุ้มครอง ขับไล่สิ่งชั่วร้าย หรือมารร้ายทั้งหลาย รวมถึงเทพฝีดาษไปให้ไกลจากเด็กๆ ดารุมะจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและโชคลาภ ในมุมมองผู้เขียนมองว่า ไม่ว่าวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นและหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่เปิดตัวรับความเจริญก้าวหน้าจากในและต่างประเทศ ก็ยังคงยึดในความเชื่อ และขนบธรรมเนียมควบคู่กับปัจจุบันอย่างไม่เสื่อมถอยเลย
ชาวญี่ปุ่นยังเชื่อเรื่องนี้ได้ลงตัวกับปัจจุบันพอสมควร ยังยึดถือในเรื่องเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยบันดาลโชคลาภ ความสำเร็จ และความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ แต่คนไทยก็มีความนิยมตุ๊กตาดารุมะอยู่บ้างนะ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเชื้อชาติไหนๆ ก็สามารถหามาบูชาไว้ในบ้านได้ เพื่อเป็นเคล็ดวิธีที่ทำให้เกิดโชคลาภมาได้ทั้งสิ้น
