พรหมปัญญโญ(โดยสังเขป) และพุทธานุภาพของเหรียญยันต์ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดู่ วัดสะแกตอนที่ 1
พระคุณเจ้าหลวงปุ่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยาเป็นพระสุปฏิปัณโณ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาต่อบรรดาศิษย์เป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าอายุสังขารจะล่วงโรยเพียงใดท่านก็เมตตาอบรมพร่ำสอนศิษย์ ตลอดจนผู้ในธรรมทั้งหลาย ที่เข้ามากราบนมัสการท่าน โดยไม่นึกถึงวัยของท่านเลย จนกระทั่งปัจฉิมวาระที่ท่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ ท่านก็ยิ่งให้ความเมตาต่อศิษย์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าในยามค่ำคืนที่ต้องพักผ่อน ท่านก็ยังเมตตาแสดงธรรมให้คณะศิษย์ที่เดินทางมานมัสการเสมอมาและยังให้ธรรมะโอวาท สติเตือนใจแก่ศิษย์ทั้งหลายว่า “ เวลาเหลือมากแล้วขอให้ทุกคนรีบปฏิบัติ
พระคุณเจ้า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเกิดเมื่อ 10 พฤษภาคม 2447 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันเพ็ญที่บ้านข้าวเท่า ตำบลข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โยมพ่อ ชื่อพุด โยมแม่ชื่อโยมพ่วง มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 3 คน หลวงปู่เป็นคนสุดท้อง ชีวิตในวัยเด็กของท่านขสดความอบอุ่น เพราะกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เยาว์วัย
ในตอนที่ท่านเป็นทารก ซึ่งตอนนั้นโยมพ่อโยมแม่ยังมีชีวิตอยู่มีเหตุการณ์สำคัญที่บันทึกไว้ดังนี้ คือในคืนวันหนึ่งที่เป็นหน้าน้ำ ขณะที่บิดามารดาท่านกำลังทำขนมเตรียมขายอยู่นั้น ท่านที่ถูกวางอยู่บนเบาะที่นอกชานคนเดียว กลิ้งตกลงไปในน้ำทั้งคนทั้งเบาะ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวท่านไม่จมน้ำ แต่กลับลอยน้ำอยู่บนเบาะจนไปติดอยู่ที่ข้างรั่ว จนกระทั่งสุนัขที่บ้านท่านมาเห็นเข้าก็เห่าและวิ่งกลับไปกลับมาระหว่างทารกกับมารดาของท่าน จนกระทั่งมารดาของท่านเดินออกมาตาม ก็พบท่านลอยน้ำติดอยู่ข้างรั้ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มารดาเชื่อว่าท่านจะต้องเป็นผู้มีบุญกลับชาติมาเกิด
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เมื่อวัยเยาว์อาศัยกอยู่กับยายและพี่สาว ท่านได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนที่วัดกลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศน์ ธรรมประวัติ แถวๆบางปะอินนั่นเอง
เมื่ออายุได้ 21 ปี ก็ได้เข้าพิธีบรรพชา อุปสมบท ในวันที่ 10 พฤษภาคม ปี 2468 ที่วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อกลั่น เจ้าอาวาสวัดติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า พรหมปัญโญ เมื่อบวชได้พรรษาที่ 3 หลวงปู่ดู่ก็เดินธุดงค์ โดยมีสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นจุดหมายปลายทาง หลังจากเดินธุรงค์ผ่านไปได้ 3 เดือนจนกระทั่ง อาพาธจึงได้พักการเดินธุดงค์
หลวงปู่ตัดสินใจไม่รับกิจนิมนต์ไปนอกวัด ตั้งแต่ปี 2490 หลวงปู่ปฏิบัติในการทำวัตรเช้า ทำวัดเย็นอยู่สม่ำเสมอไมเคยขาด นอกจากนี้ท่านยังได้สอนหนังสือเด็กๆในโรงเรียนวัดด้วย
ในคืนหนึ่งก่อนพ.ศ.2500 เล็กน้อย เมื่อท่านเข้าจำวัด ท่านก็ฝันไปว่าได้ฉันท์ด่าว 3 ดวงในขณะที่ฉันท์ก็รู้สึกกรอบดี เลยฉันท์ไปทั้งหมด เมื่อตกใจตื่น ท่านจึงพิจารณาถึงนิมิตที่เกิดขึ้นก็เข้าใจได้ว่า แก้ว 3 ดวงนั้นคือ พระไตรสรณะคมณ์ ท่านจึงกล่าวออกมาว่า
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สารณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
เมื่อกล่าวจบ ก็เกิดอัศจรรย์ขึ้นในจิตท่าน มีความมั่นใจพระไตรสรณะคมนี้เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา การสมาทนศีล 5 ศีล 8 หรือการขอบรรพชาอุแสมบทก็ต้องกล่าวพระไตรสรณะคมนี้ ท่านจึงกำหนดเอาเป็นองค์ภาวนา
อย่าลืมคิดตาม ประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญญโญ(โดยสังเขป) และพุทธานุภาพของเหรียญยันต์ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ตอนที่ 2 คุณจะได้ทราบถึงพลานุภาพของวัตถุมงคล และคำสอนที่สำคัญของหลวงปู่
ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com
FB : รวมพลคนบันเทิง