Categories
Lucky Item

5 ของขลัง นำโชคพกติดตัว

ความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องรางของขลังมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะทำอะไร ไปไหน หลายคนก็นิยมที่จะนำติดตัวไปด้วยเสมอ อย่างน้อยก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจที่ดี อย่างวันนี้ที่เรานำมาแนะนำเครื่องรางของขลังที่นิยมพกติดตัว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ดังนี้

5ของขลัง นำโชคพกติดตัว

  1. หลวงพ่อคูณ  ปริสุทโธ

เครื่องรางของขลังชนิดแรก หลวงพ่อคูณ เกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่เคารพของสายเครื่องรางของขลังทั่วประเทศ เชื่อกันว่าเครื่องขลังของท่านนั้นมีอิทธิฤทธิ์แรงกล้า หลวงพ่อท่านเคยออกธุดงส์ไปทั่วทุกสารทิศ ได้วิชาอาคมมามากมาย เมือพกติดตัวเชื่อว่าจะสามารถป้องกันอันตราย ชนะภัยทั้งปวง และนำพาแต่เรื่องดีมาให้

  • ลวงปู่ทวด

ถัดมานั่นคือ หลวงปู่ทวด ที่หลายคนคุ้นชื่อ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ท่านช่วยคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ชนะมมารและอันตรายทั้งปวงได้ โดยเฉพาะ “หลวงปู่ทวด รุ่นชนะมาร” จัดสร้างขึ้นที่วัดพะโคะ จ.สงขลา มีของวิเศษอยู่ 2 อย่างที่ใช้ร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก ได้แก่ ลูกแก้ววิเศษ และไม้เท้าของหลวงปู่ทวด

  • พระไพรีพินาศ

ต่อมาก็คือ พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ ณ เก๋งบนชั้นสองด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ใหญ่ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ พระพุทธรูปองค์นี้มีประวัติที่ยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 มีเรื่องเล่าว่าผู้นำมาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในปีพ.ศ. 2391 เชื่อกันว่าพระไพรีพินาศป้องกันศัตรู ผู้ไม่หวังดีไม่ให้มาทำร้ายผู้บูชา และให้คนคิดร้ายนั้นพินาศ พ่ายแพ้ไป

  • เหรียญครูบาศรีวิชัย

สุดยอดเครื่องรางของขลังจากภาคเหนือพระรูปนี้มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างและบูรณะพุทธศาสนาจนได้รับการขนานนามว่า ตนบุญแห่งล้านนา หรือ นักบุญแห่งล้านนาไทย คือ เหรียญครูบาศรีวิชัย หรือ พระสีวิไชย พระเถระชาวจังหวัดลำพูน ผู้เคร่งในหลักธรรมคำสอน และปฏิบัติตนเป็นที่น่าเลื่อมใสต่อชาวล้านนาในอดีต

  • เทพเจ้าเตียวฮู้เทียนซือ

ลำดับถัดมาเป็นเครื่องรางของขลังจากจีนแผ่นดินใหญ่มีพุทธคุณช่วยป้องกันพลังงานด้านลบ ป้องกันคุณไสย ปราบผี และสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต ให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้าก็คือ เตียวฮู้เทียนซือ หรือ เตี่ยวเทียนซื่อ “ราชครูสวรรค์” ผู้เป็นปรมาจารย์ลัทธิเต๋านิกายอู่ไต้หมี่เต้า

สรุปส่งท้าย

ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้เครื่องรางจะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน แต่หากไม่ขยันหมั่นดเพียรก็คงไม่สามารถประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ดีก่อนจากกันไปก็ขอให้ทุกคนโปรดใช้วิจารณาญานในการติดตามทุกครั้ง เพราะทั้งหมดนี้เป็นเรืองของความเชื่อส่วนบุคคล

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

สายมูไม่พลาด แนวทางเตรียมของไหว้ พระราหู พร้อมบทสวด เพื่อความสิริมงคล

ดวงดาวที่โคจรอยู่บนท้องฟ้าทุกดวงล้วนมีอิทธิพลส่งผลต่อดวงชะตาชีวิตทั้งนั้นทั้งในทิศทางที่ดีและไม่ดี ดังนั้นการที่พระราหูเกิดการเคลื่อนย้ายอาจไม่ได้หมายความว่าดวงชะตาของคุณกำลังตกเสมอไป แต่อาจมีความหมายดีๆ เช่น กำลังจะมีโชคลาภ หรือได้โชคอื่นๆ จากพระราหูก็เป็นได้ดังนั้นหากใครที่กำลังอยู่ในช่วงราหูย้าย ลองมาทำพิธีไหว้กันดู ซึ่งของที่ต้องเตรียมและวิธีการไหว้ มีดังนี้

ของไหว้พระราหู8 หรือ 12อย่าง

1.ไก่ดำต้ม

2.ปลาดุกย่าง

3.เหล้าดำ

4.กาแฟดำ

5.เฉาก๊วย

6.โค้กหรือน้ำหวานที่มีสีดำ

7.ซุปไก่

8.งาดำ

9.ถั่วดำ

10.ข้าวเหนียวดำ

11.สาหร่ายดำ

12.ไข่เยี่ยวม้า

ขั้นตอนการไหว้พระราหู

เตรียมน้ำเปล่า 1 ถ้วยดอกไม้สีดำธูปตามจำนวนของไหว้ โดยไหว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและควรไหว้กลางแจ้ง เริ่มจุดธูปเทียน แล้วท่องนะโม 3 จบ ตามด้วย บทสวดบูชาพระราหู ดังนี้

กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ

สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ

สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ

กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ

สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ

สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ

จากนั้นตามด้วย พระคาถาสุริยาบัพพา

กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ

โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ

โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ

พระคาถาจันทบัพพา

ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง

มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ

กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ

ต่อมากล่าวคำถวายเครื่องสังเวยพระราหู

นะโมเม พระราหูเทวานังธูปะทีปะ จะปุปผัง

สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ

สัมปันนังโภชะ นานัง

สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง

อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา

หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา

มะหิทธิกา เตปิ อัมเห

อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ

เยนะ สุเขมะจะฯ

จบด้วย คาถาบูชาพระราหู

คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ (12 จบ)

ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12อย่าง )ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใดๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

และเมื่อธูปใกล้จะหมดก็ทำพิธีลาของไหว้ เพื่อนำของไหว้มารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนทานอย่าลืมท่องคาถา “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”

และนี่ก็คือวิธีการไหว้ การเตรียมของไหว้ พร้อมบทสวดบูชาพระราหูที่เรานำมาฝากในวันนี้ สำหรับใครที่อยู่ในราศีพระราหูกำลังเคลื่อนย้ายก็อย่าได้กังวลใจไป เพราะบางครั้งดวงชะตากำลังจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นก็เป็นได้

รูปภาพประกอบ : thairath.co.th

รูปภาพประกอบ : komsanvpr.lnwshop.com

รูปภาพประกอบ : sanook.com

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
Horoscope

กินเจ 2565 ไหว้ขอพรเทพเจ้า 7 ศาลเจ้าดังเสริมดวง ไหว้แล้วดี

      เทศกาลถือศีลกินเจ 2566 ขอเชิญชวนไปไหว้เทพเจ้าที่กับศาลเจ้าทั้งในกรุงเทพฯและใกล้เคียง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับการงาน การเรียน ความรัก และชีวิตในทุก ๆ ด้าน วันนี้ก็เลยได้รวบรวมสถานที่ไหว้เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และใกล้กรุงเทพฯ มาฝากกัน เริ่มกันที่.

1. วัดมังกรกมลาวาส กรุงเทพฯ

           คนทั่วไปรู้จักในชื่อ วัดเล่งเน่ยยี่ ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเยาวราช ที่นี่สถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์ตามฮวงจุ้ยของจีน มีวิหารท้าวจัตุโลกบาลอยู่ส่วนแรก ตามด้วยพระอุโบสถ แล้วข้างหลังเป็นวิหารเทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมมาสักการะเช่น พระโคตมพุทธเจ้า, พระอมิตาภพุทธะ, พระไภษัชยคุรุพุทธะ, ไท้ส่วยเอี้ย, ฮั่วท้อเซียงซือกง, ไฉ่ซิงเอี้ย, ไต่เสี่ยฮุกโจ้ว, พระเมตไตรยโพธิสัตว์, แป๊ะกง-แป๊ะม่า และเทพเจ้าอื่น ๆ อีกมากกว่า 50 องค์

 ที่ตั้ง : ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.

2. ศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ

           ที่ชาวจีนจะเรียกกันว่า ตั่วเหล่าเอี๊ย สถานที่ประดิษฐานของเอี่ยนเทียนส่งเต่, รูปเจ้าพ่อเสือ, รูปเจ้าพ่อกวนอู และรูปเจ้าแม่ทับทิม ที่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจะนิยมไปกราบไหว้ขอพรเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล หรือสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาให้เทพเจ้าปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายตลอดปีตลอดไป

  ที่ตั้ง : แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

  เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น.

3. วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ จังหวัดนนทบุรี

           หรือที่รู้จักในชื่อว่าวัดเล่งเน่ยยี่ 2 ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้าต่าง ๆ เช่น พระพุทธเจ้าสามพระองค์ และพระกวนอิมโพธิสัตว์ และยังมีโรงเรียนสอนศาสนาด้วย นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังญในเมืองปักกิ่ง  จึงทำให้ งดงามยิ่งใหญ่โอ่อ่าบรรยากาศคล้ายกับเมืองโบราณในจีน

 ที่ตั้ง : อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

4. ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ จังหวัดชลบุรี

          ศาลเจ้าอันโด่งดังของเมืองชลบุรี เป็นสถานที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ โดยหลังแรกนั้นเป็นเพียงวิหารเล็ก ๆ แต่ต่อมาได้สร้างศาลเจ้าหลังใหญ่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่นี่มีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ, พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม, พระมารดาองค์เทพเจ้าแห่งดวงดาว, องค์ไท้ส่วยเอี้ย, องค์ตี่บ้อเนี่ยเนี้ย, องค์พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ทั้ง 84 ภาค และองค์เต๋าบ้อหง่วงกุง เป็นต้น

 ที่ตั้ง : อ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

5. วัดจีนประชาสโมสร จังหวัดฉะเชิงเทรา

          ชาวไทยเชื้อสายจีนเรียกว่า วัดเล่งฮกยี่ 1 ใน 3 วัดที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวมังกร โดยส่วนหัวมังกร คือ วัดเล่งเน่ยยี่ เยาวราช  ส่วนท้องมังกร คือ วัดเล่งฮกยี่ จังหวัดฉะเชิงเทรา และส่วนหางมังกร คือ วัดเล่งฮัวยี่ จังหวัดจันทบุรี มีสิ่งสำคัญ เช่น เทพไฉ่ไฉ่ซิงเอี้ย, ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ ที่หล่อด้วยกระดาษ,  เจ้าแม่กวนอิม แกะสลักจากรากไม้อายุประมาณ 100 ปี, และองค์ 18 อรหันต์ เป็นต้น

ที่ตั้ง : ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

6. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร

          สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสมุทรสาครสถานที่ประดิษฐานเจ้าพ่อวิเชียรโชติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แกะจากไม้โพธิ์ โดยมีลักษณะคล้ายองค์พระสยามเทวาธิราชอยู่ในท่าประทับยืนบนเกี้ยว ปิดประทับด้วยแผ่นทองคำเปลวบริสุทธิ์สีทองอร่าม ได้รับความเคารพศรัทธามายาวนานเกือบร้อยปีจากชาวประมง หากก่อนออกเรือได้มากราบไหว้ขอพรก็จะเดินทางปลอดภัย ทำมาค้าขายรุ่งเรือง

ที่ตั้ง : ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

7. วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม จังหวัดกาญจนบุรี

           ที่นี่ประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่โดดเด่นริมแม่น้ำแควใหญ่ แกะสลักด้วยหินหยกขาวจากประเทศจีน ยืนบนฐาน 8 เหลี่ยมสง่างาม นอกจากนี้วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิมยังมีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงาม ขนาดใหญ่โอ่อ่า ด้านในประดิษฐานเทพเจ้าสำคัญมากมาย

 ที่ตั้ง : อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

 เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

           สถานที่แต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก บางแห่งก็สามารถจัดเป็นเส้นทางไหว้พระไปด้วยกันได้ ลองวางแผนกันดูนะ ตามความเหมาะสมและความสะดวกของเรา ขอให้ได้ทำตามอย่างที่หวังทุกประการ

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscopelucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
Horoscope

ทริคปฏิบัติสายมู เทศกาลกินเจ สำหรับผู้เริ่มต้น ได้บุญทุกคน

            ใกล้เข้ามาแล้วกับ เทศกาลกินเจ อีกหนึ่งเทศกาลใหญ่ของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ต้องยกเว้นในการทานเนื้อสัตว์ เพื่อความเรียบร้อยบริสุทธิ์ โดยในปี 2566 นี้ เทศกาลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม จนถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2566 ในส่วนสายมูคนไหนที่กำลังมองหาทริคปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลบุญปีนี้ วันนี้เรามีวิธีมาบอก สำหรับผู้เริ่มต้นก็ทำได้

            สำหรับในช่วง เทศกาลกินเจ ถือได้ว่าเป็นช่วงการถือศีลกินเจเสมือนการได้บูชาดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 เพื่อการเสริมดวงความมงคลให้แก่ดวงชะตา โดยช่วงกินเจแบบนี้ ก็ใช่ว่าผักทุกชนิดจะทานได้ โดยเฉพาะกับผักที่มีกลิ่นฉุนที่จะมีผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์ เพราะมีผลจะไปทำลายธาตุทั้ง 5 ภายในร่างกาย ดังนี้

            • ผักจำพวก หัวหอม, ต้นหอม, ใบหอม, หอมหัวใหญ่, หอมแดง, หอมขาว เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อธาตุน้ำนั่นก็คือ ไต, หู, ระบบสืบพันธุ์ และระบบภูมิคุ้มกัน

            • ผักจำพวก กระเทียม, ต้นกระเทียม, หัวกระเทียม เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อธาตุไฟนั่นก็คือ ตา, หัวใจ และระบบหมุนเวียนโลหิต

• ผักจำพวก กุยช่าย, ใบกุยช่าย ที่ถือได้ว่าอยู่ในพืชตระกูลเดียวกับหอมและกระเทียม เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อธาตุไม้นั่นก็คือ ถุงน้ำดี, ตับ, แขนขา, เส้นประสาท และเส้นเอ็น

• ผักจำพวก หอมปรัง, หลักเกี๋ยว, กระเทียมโทนจีน เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อธาตุดินในร่างกายนั่นก็คือ ม้าม, กล้ามเนื้อ และกระเพราะ

• ผักจำพวก ผักชี, มหาหิงคุ์, ใบยาสูบ, บุหรี่ หรือยาเส้นที่ใช้สูบ เพราะของมึนเมาเหล่านี้ มีผลกระทบโดยตรงต่อธาตุทองดินในร่างกายนั่นก็คือ ฟัน, กระดูก, ปอด, ผิวหนัง และลำไส้ใหญ่

ทริคปฏิบัติ เทศกาลกินเจ ให้เฮงก่อนใคร

1. สำหรับในวันแรกของ เทศกาลกินเจ หรือ วันชิวอิก ให้ถือศีลกินเจอย่างเข้มงวด เพราะตามความเชื่อบอกว่าเปรียบได้เหมือนการที่ได้กินเจตลอดทั้งปี

2. ชุดแต่งกายที่ใส่ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมหรือเข้าวัดทำบุญ ควรแต่งชุดสีขาว

3. ให้หมั่นทำบุญที่เกี่ยวกับแสงสว่าง เช่น ทำบุญค่าไฟ, โคมไฟ หรือบริจาคหลอดไฟฟ้า ไม่ก็ถวายเทียน

4. ให้เติมน้ำมันตะเกียง 1 ขวด เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ ส่งเสริมดวงชะตา

5. หากกรวดน้ำ สามารถใช้น้ำขวดลิตรหลังกินเจเมื่อครบกำหนดแล้ว เพื่อเป็นการแผ่บุญกุศลที่ทำมา

                สายมูคนไหนที่อยากเริ่มถือศีลกินเจในช่วงเทศกาลบุญปีนี้ เริ่มต้นได้ไม่ยาก เพราะ เทศกาลกินเจ ถือเป็นอีกช่วงสำคัญที่ผู้ปฏิบัติสามารถทำแล้วได้ทั้งบุญและสุขภาพ เพราะการได้ลดเนื้อสัตว์ เท่ากับการได้ละเว้นจากการฆ่าสัตว์และเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นนั่นเอง

vjานจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscopelucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

5 คาถาเรียกทรัพย์ สำหรับสายมู ท่องแล้วมีเงินใช้ไม่ขาดมือ

สำหรับวันนี้เราจะขอเอาใจสายมูที่อยากมีเงินใช้ไม่ขาดมือ และกำลังมองหาที่พึ่งทางใจกันอยู่ โดยการมาแนะนำตัวช่วยดีๆ ตามความเชื่อและความศรัทธาอย่าง คาถาเรียกทรัพย์ หรือ คาถาเรียกเงิน ที่ใช้ท่องบูชาเพื่อเสริมในเรื่องของเงินทองให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งจะมีคาถาไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

1. คาถาเรียกเงินเรียกทอง

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ ( 3 จบ )

“โอม มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิ จงมา ธะนะปาตัง

มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง”

คาถาเรียกเงิน จากหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

“พุทธังโหม ธัมมังโหม สังฆังล้อม อันตะรายานิวาศสันติ”

2. คาถามหาลาภ ( หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก )

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

“สัมพุทธชิตา จะสัจจานิ เกรัตสะ พระพุทธชิตา สัพพโส คุณะวิภา

สัมปัจโต นะรุตตะโม มหาลาภัง สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม”

3. คาถาเรียกทรัพย์ เศรษฐี ( หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน )

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

“สิทธิพุทธัง กิจจังมะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลีติ

สิทธิธัมมัง จิตตังมะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลีติ

สิทธิสังฆัง จิตตังมะมะ เงินทองไหลมา นะชาลีติ

ฉิมพลี มหาลาภัง ภะวันตุเม”

4. คาถาเงินล้าน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง )

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

“สัมปะติจฉามิ นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ

พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม

มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม มิเตภาหุหะติ

พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ

วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา

วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย

พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม สัมปะติจฉามิ เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ”

5. คาถาเรียกทรัพย์ ( หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค )

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ( 3 จบ )

“พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ

วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา

วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย

พุทธัสสะ มาณีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหม”

จบกันไปแล้วกับ 5 คาถาเรียกทรัพย์ ที่ใช้สวดภาวนาเรียกเงินเรียกทอง แต่อย่างไรก็ตามบทสวดนี้ก็เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลและเหมาะกับคนที่ต้องการพึ่งทางใจเท่านั้น หากอยากให้เห็นผลเร็วไวก็ต้องควบคู่กับการเก็บออมเงินและการลงทุนที่ถูกต้องด้วย ซึ่งวิธีเหล่านี้จะทำให้เงินทองสามารถเพิ่มพูนขึ้นมาได้

รูปภาพประกอบ : prachachat.net

รูปภาพประกอบ : asianmoneyguide.com

รูปภาพประกอบ : 025798899.com

1 / 3

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
Horoscope

เปิดดวงราศีค้าขายก้าวหน้า การเงินรุ่งเรือง 8 – 14 ตุลาคม 2566

            แม้ช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศไทยเริ่มมีสัญญาณที่ดีกลับมา แต่คนเป็นพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายต่างก็ยังคงต้องขยันทำงานดิ้นรนกันต่อไป เราลองมาเช็คดวงราศีดาวพุธเจ้าแห่งการค้าขาย ช่วงตั้งแต่วันที่ 8 – 14 ตุลาคม 2566 นี้กันสักหน่อยดีกว่าว่าดวงเป็นอย่างไร มีโอกาสดีขึ้นหรือลงบ้างไหม ทำนายโดยอาจารย์อาวุธจับยามดวงรายวัน

ราศีเมษ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 พฤษภาคม 2566

ช่วงนี้คนราศีนี้มักจะชอบทำอะไรคนเดียว ไม่หวังพึ่งใคร ในส่วนเงินทองก็มีเข้าออกตามสมควร การค้าขายยังเรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

ราศีพฤษภ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน 2566

คนราศีนี้ช่วงนี้มักจะโดนเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ ในส่วนเงินทองที่ได้มาก็มักจะเก็บไม่อยู่ การค้าขายลุ่มๆ ดอนๆ ให้หมั่นทำบุญเข้าไว้

ราศีเมถุน ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม 2566

ค้าขายช่วงนี้อาจจะเงียบหน่อย แต่อย่าเพิ่งท้อถอย ไม่นานก็กลับมาคึกคักเหมือนก่อน ยังพอมีบุญเก่าเกื้อหนุนอยู่

ราศีกรกฎ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม 2566

ช่วงนี้ทุกอย่างเหมือนต้องรอให้เวลาเป็นตัวขับเคลื่อน ต้องพยายามปรับตัวให้ไว เงินทองถึงมี แต่ก็ไม่มากจนไม่กล้าใช้จ่าย

ราศีสิงห์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 สิงหาคม – 16 กันยายน 2566

            หากอยากสำเร็จ ก็ต้องรีบเร่งเป็น 2 เท่า การค้าขายก็ต้องขยันยิ่งขึ้น เงินทองอาจหามาได้ด้วยการตัดสินใจที่ฉับไว

ราศีกันย์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 กันยายน – 16 ตุลาคม 2566

มีน้ำใจทำเพื่อส่วนรวม แล้วส่วนรวมก็จะทำเพื่อเรา การมีเพื่อนร้านเรือนเคียงที่ดีเป็นลาภอันประเสริฐ ถึงแม้เงินทองมีไม่มากมาย แต่ก็พอแบ่งปัน

ราศีตุลย์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน 2566

ช่วงนี้อย่าเพิ่งหวังงานใหญ่ ให้ทำเท่าที่ตัวไหวจะพบแต่ความสำเร็จอย่างดีงาม ในส่วนเงินทองรายจ่ายยังคงมีเรื่องให้น่าปวดหัวไม่ขาดสาย

ราศีพิจิก ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2566

อย่าเพิ่งหยุดฝันกับสิ่งที่ทำ เพราะความสำเร็จยังคงอยู่ไม่ไกล แนะนำให้อย่าหยุดทำ จงก้าวต่อไปอย่างมั่นคง

ราศีธนู ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม – 15 มกราคม 2566

การค้าขายมักจะมีเพื่อนร่วมงานให้ขอช่วยบ่อยๆ ระวังอย่าอาสามากเกินไป เงินทองก็มีพอใช้ หากไม่หาเรื่องใจใหญ่นัก

ราศีมังกร ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2566

จิตใจสาธารณะส่วนรวม ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าทำตามใจตนเองจนทัวร์ลงซะเอง เงินทองค้าขายมีเข้ามามาขาดเหลือ

ราศีกุมภ์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 12 มีนาคม 2566

ถึงเวลาที่ต้องเสียสละ ไม่หวังสิ่งตอบแทน หากชอบค้าขาย ก็ทำตรงนี้ให้ดี แล้วสวรรค์จะเปิดทางให้ เดี๋ยวเงินทองก็เข้ามาหาเอง

ราศีมีน ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 มีนาคม – 12 เมษายน 2566

            บางครั้งการค้าขายเพื่อให้ได้ประสบความสำเร็จ ก็อย่าไปยึดติดกับกฎเกณฑ์ใดๆ ให้มากนัก ต้องมีความยืดหยุ่นบ้าง เงินทองก็มี ไม่เดือดร้อน

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
Lucky Item

ความเชื่อ ‘ศาลพระภูมิ’ สิ่งมงคลปกปักคุมครองประจำบ้าน

เดี๋ยวนี้เรามักจะเห็น ศาลพระภูมิ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะตามบ้านเรือนตามทาง ตามสถานที่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งตามถนนข้างทาง ก็ยังมีศาลพระภูมิตั้งไว้ เพราะนั่นเป็นความเชื่อดั้งเดิมระหว่างคนไทยและศาสนาพุทธ ที่เชื่อกันว่ามีเจ้าที่เจ้าทางอยู่ตามสถานที่ต่างๆ หากเราดูแลท่านเป็นอย่างดี

ความเชื่อเกี่ยวกับ ศาลพระภูมิ

ศาลพระภูมิ เป็นการผสมผสานกันระหว่างศาสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู  ศาลพระภูมิ ยังเป็นแท่นบูชาที่เชื่อว่าเป็นที่สถิตย์ของเจ้าที่เจ้าทาง เทวดาให้ได้มาอาศัยอยู่ โดยศาลพระภูมินั้นพบได้ทั่วไปในประเทศไทย ประเทศลาว และ ประเทศกัมพูชา มีลักษณะเป็นบ้านหรือวิหารหลังเล็กๆ ตั้งอยู่บนเสาเดี่ยว บริเวณจุดมงคลของบ้าน จุดมงคลนี้ถูกกำหนดโดยพราหมณ์ มักอยู่ริมรั้วหรือมุมของบ้าน

บ้านหนึ่งหลังมีศาลพระภูมิได้กี่หลัง

เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าจริง ๆ บ้านหนึงนั้นสามารถตั้งศาลพระภูมิได้มากว่า 1 หลังก็ได้ ซึ่งการตั้งนั้นต้องมีการอัญเชิญเข้ามาถูกต้องตามแบบแผน นั่นก็คือคนที่ดูแลศาลพระภูมิ จะต้องบวงสรวงท้าวมหาราชทั้งสี่ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโลก และจะส่งพระภูมิเทวามาอยู่ที่ศาลพระภูมิ คอยคุ้มครองคนที่อยู่ในบ้าน

แล้วตั้งทิศทางในการตั้ง ศาลพระภูมิอย่างไรจะดี

ตามความเชื่อ ศาลพระภูมิควรหันหน้าไปทางทิศ ดังนี้

  • ทิศที่ดีอันดับ 1 คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ทิศที่ดีอันดับ 2 คือ ทิศตะวันออก
  • ทิศที่ดีอันดับ 3 คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้
  • ทิศต้องห้าม คือ ทิศตะวันตกและทิศใต้

การเลือกที่ตั้งศาลพระภูมินั้น เมื่อเลือกที่ทางได้แล้ว ก็ต้องทำการยกพื้นฐานศาลขึ้น โดยพูนดินบริเวณที่ตั้งศาลพระภูมิให้สูงจากพื้นประมาณ 1 คืบหรือบ้างบ้านเราอาจเห็นว่ายกพื้นสูงเลยทีเดียว จากนั้นให้เกลี่ยดินแล้วทุบให้แน่น แต่งานนี้บอกเลยว่าทั้งนี้ห้ามใช้เท้าโดยเด็ดขาด และเนื่องจากเป็นพื้นที่สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องขับไล่สิ่งชั่วร้ายก่อน โดยให้นำน้ำมนต์ธรณีสารมาประพรมบริเวณที่ตั้งศาลพระภูมิ

วิธีบูชา ศาลพระภูมิ

  • ของทั่วไปสำหรับบูชา ได้แก่ ดอกไม้ พวงมาลัย ข้าวปากหม้อ แกงจืด
  • ของคาว ได้แก่ หัวหมู เป็ด ไก่
  • ของหวาน อาทิ เม็ดขนุน ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
  • ผลไม้ ต่าง ๆ รวมถึง มะพร้าวน้ำหอมอ่อน

ไหว้ศาลพระภูมิวันไหนดี

สำหรับวันดี ๆ หรือวันที่เหมาะสมกับการจัดของไหว้ศาลพระภูมินั้นก็คือ ทุกวันพระ วันอังคาร วันเสาร์ หรือวันสำคัญต่างๆ เช่น วันเกิดของตัวเอง หรือวันนักขัตฤกษ์ ก็ได้

สรุป

และนี่ก็คือเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับศาลพระภูมิที่เรานำมาฝาก ศาลพระภูมิที่หลายคนเห็นก็จะนึกถึงเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ที่ท่านเข้ามาอาศัยอยู่ในศาลแห่งนี้ ใครที่อยากจะตั้งศาลพระภูมิไว้ในบ้าน ต้องทำการเรียนรู้เสียก่อน เพื่อจะได้บูชาอย่างถูกวิธี บูชาแล้วเป็นผลดีกับตัวเอง ให้ศาลพระภูมิคอยช่วยปกป้องดูแลเราจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆ เชื่อกันว่าในศาลพระภูมิ มีท้าวมหาราชทั้งสี่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลโลก และ จะส่งพระภูมิเทวามาอยู่ที่ศาลพระภูมิ เพื่อคอยปกป้องคนที่บูชา หรือเจ้าของบ้าน

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

“พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ครบเครื่องเรื่องบนบานและลี้ลับ

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากในประเทศไทย ที่เชื่อว่าหลายคนเมื่อได้ยินชื่อนี้คือจะต้องต้องนึกถึงช้างสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่มาก เด่นสง่า ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงความเป็นไทยแบบไทยประเพณี และมีความสำคัญด้านพระพุทธศาสนา

สถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไม่ได้ห่างจากกรุงเทพฯ มากนัก โดยตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการนั่นเอง เหตุที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเป็นสถานที่ครบเครื่องทั้งความรู้ ท่องเที่ยว การบนบาน และความขนหัวลุกนั้น ล้วนมีความน่าสนใจไม่น้อย จะเห็นได้ว่ามีคนมากราบไหว้ตรงช้างเอราวัณและมาแก้บนมากมายเลยทีเดียว

ความศักดิ์สิทธิ์ของช้างเอราวัณ

                 พุทธคุณที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อยู่ที่ช้างเอราวัณจริงๆ เนื่องด้วยตัวรูปปั้นช้างเอราวัณเป็นประติมากรรมลอยตัว โดยอาศัยเทคนิคด้วยมือ แต่มีความใหญ่โตอย่างมากจนเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสมุทรปราการ ความเชื่อของช้างเอราวัณจะเป็นพาหนะของพระอินทร์ที่มี 33 เศียร มีลักษณะเป็นช้างเผือกสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่มีเทวดา เทพยดา เทพธิดา นางอัปสรมากมายภายในช้างเอราวัณ แต่ที่ทำแบบ 3 เศียร เพื่อความง่ายในการจัดทำโดยศิลปิน และง่ายต่อการก่อสร้าง ซึ่งใครมากราบไหว้ ขอพรจะให้เรื่องการขอพรที่สมดังปรารถนา ไม่ว่าจะการเงิน การงาน ความอุดมสมบูรณ์ ให้โชคลาภ รวมถึงให้ในเรื่องการเสี่ยงโชค ซึ่งทุกๆ วันที่ 1 และ 16 จะนิยมมาบนบานศาลกล่าวที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณมากมาย หากสมหวังจะกลับมาแก้บน บางคนถึงขั้นจอดรถป้ายแดงเพื่อแก้บนเลยก็มี

การขอพรที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

การขอพรที่จากรูปปั้นช้างเอราวัณนั้นก็เหมือนปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรืองการงาน การเงิน สุขภาพ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ไม่กี่ข้อ โดยจะให้เหตุผลว่ามีอะไรบ้าง

1.ขอพรในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ : ทุกคนมีความเพ้อฝันเป็นเรื่องปกติ แต่การขอพรที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จะต้องอยู่บนพื้นฐานความตั้งใจของตนเองแต่เดิม และบนพื้นฐานความเป็นจริง เพื่อที่จะสัมฤทธิ์ผลดังที่ปรารถนา และผู้ขอพรต้องแน่วแน่ในสิ่งที่ขออย่างมาก

2. ขอพรไปลบหลู่ไป : พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ มีความเกี่ยวข้องด้านบาปบุญคุณโทษ และมีการเกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างมาก่อน ข้อนี้ต้องระวังอย่างมาก บางคนเคยขอพรแล้วติดลบหลู่ต่างๆ ซึ่งเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ผลที่ได้มาอาจจะรุนแรงจนรับไม่ได้อีกด้วย

                พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณไม่ได้มีดีแค่ภายนอกกับประติมากรรมลอยตัวเท่านั้น ภายในพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณยังมีการแบ่งโซนออกเป็น 3 โซน ซึ่งอ้างอิงจาก “คัมภีร์ไตรภูมิกถา” หรือ “ไตรภูมิพระร่วง” ที่แบ่งโซนบาดาล โซนโลกมนุษย์ และโซนสรวงสวรรค์ จึงสมารถบอกได้ว่าพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ครบเครื่องไม่ว่าจะความลึกลับ และความขลังที่มีคนมาขอพรกันเป็นอันดับต้นๆ และเป็นอีกหนึ่งสถานที่อันเป็นที่รวมของความศักดิ์และความเชื่อของชาวพุทธเสมอมา

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

ขอเลขเด็ดโชคลาภ หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ จ.นครปฐม

หากจะพูดถึงสถานที่ขอหวย ขอเลขเด็ด ที่โด่งดัง เป็นที่นิยมขอโชคลาภ หลายคนคงจะนึกถึง วัดสว่างอารมณ์ (วัดแคแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่แห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ หลวงพ่อแป๊ะ (พระครูยติธรรมานุยุต) วัดสว่างอารมณ์ กันให้มากขึ้น เพราะถือว่าเป็นเกจิอาจารย์ในระดับแนวหน้า เลยทีเดียว หากใครมาที่นี่ก็ต้องมาไหว้กันให้ได้

วัดสว่างอารมณ์

แต่เดิมวัดสว่างอารมณ์นี้เป็นอารามที่ร้าง ต่อมาพระภิกษุรูปหนึ่งได้มาบูรณะดูแลวัดแห่งนี้ ให้กลับมาเป็นวัด เป็นศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ให้มีที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และให้สมกับความเป็นสถานที่ที่พักของภิกษุสงฆ์ ซึ่งเมื่อมีภิกษุมาจำพรรษา วัดแห่งนี้ ก็ค่อย ๆ กลับมามีชีวิตชีวา และมีจิตวิญญาณ ภิกษุรูปนั้น คือ หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน

ประวัติหลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์

ประวัติ หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน เจ้าอาวาส วัดสว่างอารมณ์ นามเดิมว่า สมทรง เดชจินดา เกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2501 เมื่ออายุ 19 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดตุ๊กตา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีพระครูวิบูลย์สิริธรรม หรือ หลวงพ่อเพี้ยน เป็นพระอุปัชฌาย์ จนเมื่อ หลวงพ่อแป๊ะ มีอายุ 22 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทสีมา วัดตุ๊กตา มีพระครูวิบูลย์สิริธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทองดำ วัดตุ๊กตา เป็นพระอนุสาวนาจารย์

 หลวงพ่อแป๊ะ ท่านได้เริ่มศึกษาวิทยาคมอักขระเลขยันต์ตามตำราของ วัดตุ๊กตา และวัดกลางบางแก้ว ตามตำราหลวงปู่บุญ, หลวงพ่อเพิ่ม มีพระอาจารย์เจือ ปิยสีโล เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาอักขระเลขยันต์ให้ นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีตแห่ง นครปฐมหลายรูป ถ่ายทอดวิชาอาคมให้ ต่อมากราบลาพระอุปัชฌาย์ ออกเดินธุดงค์ลงภาคใต้ มีโอกาสศึกษาวิชาจากหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร และยังได้เรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์สายใต้อีกหลายรูปในยุคนั้น อาทิ หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง, พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา เป็นต้น

ขอโชคลาภ เลขเด็ด หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์

แต่ละปี จะมีผู้คนทั่วสารทิศมาร่วมทำบุญวันเกิด หลวงพ่อแป๊ะ และแน่นอนว่าคอหวยก็ไม่พลาดเหมา “เลขเด็ด” อายุหลวงพ่อเกลี้ยงทุกแผงในทุกๆ ปี เตรียมนำไปลุ้นโชค โดยในปี 2565 หลวงพ่อแป๊ะ อายุ 64 ปี และเลข 11 วันเกิดของหลวงพ่อแป๊ะ ยังมีเลขที่เกี่ยวข้องเช่น 116, 163 หรือ 631 เกลี้ยงหมดทุกแผงด้วย และในวันที่ใกล้หวยออก หลายคนก็มักจะเข้านมัสการหลวงพ่อแป๊ะ แจ้งความประสงค์ให้หลวงพ่อแป๊ะประกอบพิธีอาบน้ำมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลในการประกอบอาชีพและเป็นสิริมงคลด้วย ตามความเชื่อของตนเอง หลายคนเชื่อว่าสามารถปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไปจากชีวิตได้ ทำให้มีความเจริญรุ่งเรือง โชติช่วงชัชวาล การงานมั่งคงมีความสุขและชีวิตดีวันดีคืนอย่างเห็นได้ชัด

พระเงินพระทอง วัดสว่างอารมณ์

เมื่อมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อแป๊ะแล้ว อย่าพลาดที่จะไปกราบไหว้ พระเงินพระทองด้วย เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดในเมื่อมาแล้วก็ขอโชคขอลาภไปในตัวเลย เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของ พระเงินพระทอง ทุกครั้งที่มาจะขอโชคขอลาภก็ได้ไปไม่เคยพลาด ใครที่อยากได้โชคลาภ ขอเลขเด็ด และมีโอกาสเดินทางมายังจังหวัดนครปฐม ก็ต้องมาให้ได้นะ

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง