“ผีฟ้า….”

“ผีฟ้า….”

ผีฟ้า...เทวดาแห่งการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

เทวดาแห่งการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

ผีฟ้าเอย…หมู่เฮาเต้นรำ…ยังคงเป็นอะไรที่ติดหูจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าพูดถึงผีฟ้านั้นจัดเป็นความเชื่อในกลุ่มคนไทยที่กำลังจะหายไปตามกาลเวลา มีเพียงไม่กี่ท้องถิ่นของประเทศไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อเรื่องผีฟ้าอยู่

ถ้าพูดถึงผีฟ้านั้นจะเป็นเทวดาในความเชื่อของภาคอีสานของประเทศไทยที่ให้คุณในเรื่อง “การรักษาโรค” จะเห็นได้ว่าเจ็บไข้ได้ป่วย แม้กระทั่งผีเข้าสิง ก็จะมีการขอผีฟ้าผีแถนมาช่วยรักษาชาวบ้านให้หายเจ็บป่วย หรือหายจากผีเข้าสิง แต่การเป็นผีฟ้านั้นจะไม่ได้เป็นกันง่ายๆ และที่ดูเหมือนเต้นรำ เพราะว่ามันจะไม่ค่อยพ้นเสียงดนตรีเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดี

ชาวอีสานเชื่อกันว่าผีฟ้าเป็นเทวดามากกว่าผี เพราะจะออกแนวให้คุณ และเป็นเทวดาที่อยู่ภพภูมิสูงกว่าผีสางค่อนข้างมาก เป็นศูนย์รวมจิตใจ แล้วยังเป็นที่พึ่งทางกาย ทางใจได้ สามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ โดยจะช่วยในด้านจิตวิทยาในการรักษาเป็นบทบาทหลักในเรื่องของผีฟ้า

ส่วนวิธีการรักษาคือจะเชิญผีฟ้าเข้ามาสิงสถิตในร่างของคนทรง ซึ่งจะเรียกคนทรงนี้ว่า “ผีฟ้า นางเทียน” จะเป็นหญิงชรา หรือหญิงสาวก็ได้ แต่ต้องสืบเชื้อสายจากหมอลำผีฟ้าเข้ามาด้วย นอกจากนี้ยังมีหมอแคนเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการเป่าแคนเพื่อรักษาผู้ป่วย รวมถึงเครื่องคายหรือเครื่องอัญเชิญให้ครูที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นครูหรือบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดวิชาผีฟ้า มาช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยให้หายเป็นปลิดทิ้ง

ซึ่งร่างทรงผีฟ้าจะต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง มีจิตใจเมตตา โอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น เพราะการร่ายรำเพื่อรักษานั้น จะเป็นการช่วยชีวิตให้หลุดพ้นจากความเจ็บป่วย ซึ่งเป็นการรำเพื่อช่วยชีวิต ขึ้นอยู่กับความเป็นความตายของผู้ที่รับการรักษาจากผีฟ้า จะไม่ได้ร่ายรำเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว จึงเหมือนเป็นหมอระดับภูธรในรูปแบบหนึ่ง

ในปัจจุบันเรียกได้ว่าเลือนหายไปตามกาลเวลา มีน้อยมากที่จะเป็นการรักษาเพื่อช่วยชีวิตของคนในท้องถิ่น และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการรักษาคนไข้ในปัจจุบันจะต้องพึ่งแพทย์เฉพาะทาง และโรคภัยไข้เจ็บอุบัติใหม่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และไม่สามารถเยียวยาได้ในทางไสยศาสตร์ แต่จะต้องพึ่งกระบวนการรักษาในทางวิทยาศาสตร์โดยตรง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสวัสดิภาพของผู้ได้รับการรักษาโดยตรง

ถ้าในทางกลับกัน อิทธิพลด้านผีฟ้าก็ยังเป็นอิทธิพลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างมาก เพราะมันมีประโยชน์และเป็นตัวสะท้อนในการทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างแท้จริง

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Facebook
Twitter
Skype