Categories
Lucky Item

วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวง ที่ ตั้งแล้วดีชีวิตปัง

ตอนนี้เทรนด์หนึ่งที่มาแรงสุด ๆ ในช่วงนี้ นั่นก็คือการแจกภาพ วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวง นั่นเอง ฟังไม่ผิดหรอกว่าวอลเปเปอร์นี่แหละ ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่สายมูในตอนนี้ ยิ่งในยุคนี้ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปเสริมดวงตามที่สถานที่ต่าง ๆ ได้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มหาวิธีการเสริมดวงที่ง่าย และเห็นผลได้เหมือนกัน จนมีการรีวิว บอกต่อความปังจนกลายเป็นเทรนด์ยอดฮิตในตอนนี้

ทำไมการตั้ง วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวง ถึงได้รับความนิยม

เหตุผลเพราะว่าทำให้คนส่วนใหญ่ที่เป็นสายมู สายบูชา ไม่สามารถเดินทางไปบูชา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเดินทางไปไหว้พระเสริมดวงตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ บวกกับความทันสมัยของเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ ทำให้หลายคนหันมาเสริมดวงจากสิ่งที่อยู่รอบตัวอย่างการตั้งวอลเปเปอร์โทรศัพท์ ซึ่งถ้าเราสังเกตุดี ๆ การตั้งภาพจอโทรศัพท์เพื่อเป็นการเสริมดวง ถือว่าเป็นสิ่งที่มีสายมูเคยทำมาแล้ว ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา โดยช่วงนั้นภาพหน้าจอที่คนนิยมนำมาตั้งกันก็คือ สิ่งที่จะช่วยเสริมดวงเรื่องเงินทอง เรื่องโชคลาภ ให้มีความเจริญรุ่งเรือง

วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวง มีทั้งหมดกี่รูปแบบ

สำหรับวอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวงนั้นจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ  ได้แก่ การงาน การเงิน โชคลาภ และความรัก โดยแต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีไพ่ทาโรต์ที่มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แถมความหมาย และการเสริมดวงนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป

1.วอลเปเปอร์ที่เน้นเสริมดวงการงาน

 จะเป็นวอลเปเปอร์ที่เน้นเสริมดวงการงานสำหรับชาวออฟฟิศ พนักงานประจำทั้งหลาย ที่อยากมีการงานที่ดี มีความเจริญก้าวหน้า ได้รับโอกาสดี ๆ ในการทำงานอยู่เสมอ มีคนคอยสนับสนุน และคอยช่วยเหลือในสิ่งต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยเสริมดวงให้พบเจอกับคนที่ดี เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้าที่น่ารัก แถมยังช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี ความเลวร้าย และอุปสรรคให้ออกไปจากชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากการตั้งวอลเปเปอร์โทรศัพท์เพื่อเป็นการเสริมดวงแล้ว ก็อย่าลืมทำบุญเสริมดวงตามวันเกิด เพื่อเป็นการเกื้อหนุนดวงชะตาชีวิตให้ดีขึ้นเป็นสองเท่า!!!

2. วอลเปเปอร์ที่เน้นเสริมดวงโชคลาภ

จะเน้นเสริมดวงโชคลาภ ให้กับคอหวย หรือผู้ที่ชอบการเสี่ยงดวง เสี่ยงโชค หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ได้รับทรัพย์แบบไม่ทันได้ตั้งตัว และนอกจากจะตั้งวอลเปเปอร์เพื่อเสริมดวงโชคลาภให้ปังแล้ว การท่องคาถาเรียกทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยทำให้เรามีเงินทองเข้ามาโดยไม่หยุดหย่อน เฮง ๆ ปัง ๆ อีกด้วย

3. วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวง การเงิน

จะเป็นการเสริมดวงการเงินให้การเงินของเรามีสภาพคล่องตัวมากขึ้น หมุนเงินง่ายขึ้นจากแต่ก่อน จากที่เก็บเงินไม่อยู่ ก็จะเก็บเงินเก่งขึ้น มีเงินทองไหลมาจากหลาย ๆ ช่องทาง แถมยังช่วยเสริมดวงการเงินเวลาที่มีปัญหา ก็จะมีคนคอยช่วยเหลือ ให้หยิบยืมเงินอยู่เสมอ

4.วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวงความรัก

จะช่วยเสริมดวงความรักให้กับคนโสด ไหนใครที่เป็นคนโสดต้องตั้งวอลเปเปอร์ภาพนี้รับรองว่าไม่นกอย่างแน่นอน เพราะวอลเปเปอร์นี้จะช่วยให้คนโสดพบเจอกับคนที่ถูกใจ จนถึงขั้นได้พัฒนาความสัมพันธ์จากคนคุยธรรมดา เปลี่ยนมาเป็นคนพิเศษ  ดีไม่ดีอาจถึงขั้นเปลี่ยนมาเป็นคนรักได้ในอนาคต อีกทั้งวอลเปเปอร์นี้ยังช่วยให้ความรัก ความสัมพันธ์ราบรื่นขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

คำแนะนำในการตั้งวอลเปเปอร์เสริมดวง

ก่อนอื่นสำหรับใครที่อยากนำภาพวอลเปเปอร์ไปตั้งหน้าจอโทรศัพท์ ควรทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ คือ ให้ตั้งจิตอธิษฐานให้มั่น จากนั้นให้พูดชื่อ – นามสกุล ตามด้วยบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือสิ่งที่อยากให้สมหวังได้เลย

สรุป

การตั้งวอลเปเปอร์จะช่วยเสริมดวงชีวิตแต่ละคน ในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถเสริมดวงได้ทั้งเรื่องการงาน การเงิน ความรัก รวมไปถึงโชคลาภ สำหรับใครที่เป็นสายมูก็สามารถนำภาพวอลเปเปอร์นี้ไปใช้กับสมาร์ทโฟนตัวเองได้ เพื่อเพิ่มดวงชีวิตให้ปังยิ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า ต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า การตั้งภาพวอลเปเปอร์โทรศัพท์ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แล้วถ้าหากใครนำวอลเปเปอร์ไปตั้งโทรศัพท์แล้วดวงชีวิตปังขึ้น ก็อย่าลืมมารีวิวพวกเรากันด้วยนะ

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

สวดคาถาก่อนออกจากบ้าน การงานก้าวหน้า เจ้านายรักและเอ็นดู

ความเชื่อเรื่องการสวดมนต์ก่อนออกจากบ้านนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยเชื่อกันว่าหากเราได้สวดคาถาก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะออกเดินทางไปทำงาน หรือเดินทางทางไปไหนก็มีแต่ความแคล้วคลาดปลอดภัย หรืออาจเปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ และช่วยให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เพื่อนร่วมงานรักเอ็นดู เจ้านายใจดีมีเมตตา ซึ่งวันนี้เราก็มีคาถาที่ว่าด้วยความก้าวหน้าการงานดีและนำพาคุณให้ไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จ ก่อนอื่นจะต้องตั้งจิตให้นิ่งและสงบพร้อมกล่าวท่องคาถาตามบทสวด ดังต่อไปนี้

คาถาการงานก้าวหน้าให้ สวดคาถาก่อนออกจากบ้าน จะเห็นผล

( ตั้งนะโม 3 จบ )

อิติปาระมิตา ติงสา อิติสัพพัญญะ มาคะตา

อิติโพธิ มุนุปปัตโต อิติปิโส จะตะมะโน

นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี

ยะเอ็นดู ยะหันตวา ธามัวเมา

พุทพาเอา นะโมพุทธายะ

( สวดทั้งหมด 9 จบ )

เพราะทุกย่างก้าวของการเดินออกจากบ้าน หรือการที่ต้องเดินทางไปในที่ที่เราไม่คุ้นเคยและไม่อาจรู้ได้ว่าที่ตรงนั้นข้างหน้าจะมีอะไรรอเราอยู่บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่อาจทราบล่วงหน้าได้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีสิ่งที่คอยเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและสร้างความมั่นใจ เพื่อทำให้ภายในใจของเรารู้สึกโล่งปลอดโปร่ง สบายทั้งกายและใจ ทั้งนี้การมีสิ่งเหล่านี้ไว้ป้องกันตัวยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

ต่อจากนี้จะเป็นเรื่องราวความเชื่อที่อยากให้ลองอ่านเพื่อเป็นวิทยาทาน จากคำบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้พบเจอ ทั้งนี้อาจเป็นความเชื่อและศรัทธาส่วนบุคคล ความว่า ช่วงหนึ่งทุกครั้งเวลาที่เริ่มทำงานที่ได้รับมอบหมาย เวลาทำหน้าที่เสร็จถึงเวลาก็ส่งอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรเลย

หรือพอมีปัญหาเข้ามาก็เหมือนว่าสามารถก้าวผ่านมาได้ตลอด หรือเวลาเดินทางออกจากบ้านก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัยไร้กังวล และทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มทำงานหรือจะก้าวออกจากบ้านนั้นเราจะ สวดคาถาก่อนออกจากบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลและถือเป็นเครื่องรางนำโชคดี แต่ทั้งนี้จะเน้นไปทางการสวดหรือท่องคาถาเพื่อให้รู้สึกถึงความสบายใจเท่านั้น เพราะไม่ยุ่งยากและไม่เสียเวลามากเกินไป

อย่างไรก็ตามการ สวดคาถาก่อนออกจากบ้าน อาจไม่ได้ผลสำหรับบางคน หรืออาจไม่ได้ตามความหวังที่ตั้งใจไว้ทุกคน เพราะความเป็นจริงแล้วการที่จะทำงานให้ดีและสำเร็จได้นั้น ก็ต้องอาศัยตัวบุคคลและก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบในหน้าที่การงานของเราด้วย แต่บทสวดนี้จะช่วยให้เราสบายใจคลายกังวลได้ และอาจตอบโจทย์สำหรับคนที่ขาดความมั่นใจ ให้ลองนำไปสวดดูจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและสิ่งดีๆ ต่างๆ จะตามมาเอง

รูปภาพประกอบ : prakumkrong.com

รูปภาพประกอบ : th.theasianparent.com

รูปภาพประกอบ : thairath.co.th

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาให้อัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

5 วัดจังหวัดขอนแก่นแดนดินถิ่นอีสานเก่าแก่

จังหวัดขอนแก่น อยู่ในภาคอีสานของไทย ที่มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของภาคอีสานอยู่หลากหลายประเภท หลายแบบ ที่สืบทอดมานาน รวมถึงโบราณสถานต่างๆด้วย บทนี้จึงขอนำ 5 วัดจังหวัดขอนแก่นแดนดินถิ่นอีสานเก่าแก่ มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะทราบกันแล้วว่ามีวัดอะไร ที่ไหนกันบ้าง เรามาติดตามกันเลย

  1. วัดป่าแสงอรุณ

ปิดท้ายกันที่ วัดป่าแสงอรุณพระอารามหลวง อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีความงามแบบเฉพาะตัว เหมาะสำหรับไปทำบุญ เลี้ยงพระ ถวายอาหารเพล สัมผัสกับวิถีชาวบานแบบโลคอล นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิมอีสานหรือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ภายในมีภาพเขียนผนัง ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ และหุ่นจำลองแสดงวิถีชีวิตชาวขอนแก่นตั้งแต่อดีต เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวขอนแก่น วัดสวยและมีคุณค่า เหมาะสมหรับคนที่อยากเที่ยววัดแบบใกล้ชิดชุมชน

วัดป่าแสงอรุณ

9/2 โยธาธิการ ตำบล พระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น ขอนแก่น 40000

  • วัดป่ากิตติญานุสรณ์

เป็นวัดที่ตั้งอยู่อำเภอภูเวียง มีบรรยากาศสงบ ร่มรื่น ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือซุ้มป่าไผ่สวยๆ และยังเป็นวัดที่ประดิษฐานพระนอนพุทธไสยาสน์เมตตาองค์ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ใครมาจังหวัดขอนแก่นเมื่อไรต้องแวะมาสักการะเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต

วัดป่ากิตติญานุสรณ์

J9Q6+945 ตำบล สงเปือย อำเภอ ภูเวียง ขอนแก่น 40150

  • วัดถ้ำผาเกิ้ง

วัดสำหรับปฏิบัติธรรม วัดถ้ำผาเกิ้ง เหมาะสำหรับการไปปฏิบัติธรรม เพราะวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเชิงเขา มีความร่มรื่น เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการมานั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม หรือจะแวะมาชมพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้และรูปปั้นพญานาคที่หน้าวัดก็ถือเป็นไฮไลท์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครก็ได้เช่นกัน

วัดถ้ำผาเกิ้ง

P62V+59C ตำบล ในเมือง อำเภอ เวียงเก่า ขอนแก่น 40150

  • วัดพระพุทธบาทภูพานคำ

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาภูพานคำ อำเภออุบลรัตน์ ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและหลวงพ่อพระใหญ่ พระพุทธอุตรมหามงคลอุบลรัตน์หรือหลวงพ่อขาว (หลวงพ่อภูพานคำ) ซึ่งองค์หลวงพ่อประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัวสีชมพู มีความสูง 14 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2514 สามารถมองเห็นได้เด่นเป็นสง่าแม้จะมองจากที่ไกลๆ ถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนที่ต้องขับรถทางไกลผ่านเส้นทางนี้ได้เป็นอย่างดี การเดินขึ้นไปสักการะต้องขึ้นบันไดนาค 1,049 ขั้น สามารถขับรถขึ้นไปได้ ด้านบนเป็นจุดชมวิว 360 องศา เรียกได้ว่ามาสักการะแล้วได้ทั้งบุญได้ทั้งชมวิวสวยๆด้วย

วัดพระบาทภูพานคำ

QJ79+CR6 ตำบล เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภอ อุบลรัตน์ ขอนแก่น 40250

  • วัดทุ่งเศรษฐี

วัดสวยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีไฮไลท์อยู่ที่มีพระมหาเจดีย์รัตนะหรือมหาเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ การก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเชื่อเรื่องโลกธาตุทั้ง 3 คือ เจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นครเจดีย์ในนาคพิภพ และมหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุบนโลกมนุษย์ สร้างสรรค์ออกมาเป็นองค์เจดีย์ที่งดงามแปลกตา มาเที่ยวขอนแก่นเมื่อไรต้องแวะมาสักการะและถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นความประทับใจกันให้ได้นะ

Wat Thung Setthee – วัดทุ่งเศรษฐี

ตำบล พระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น ขอนแก่น 40000

นี่ก็คือ 5 วัดจังหวัดขอนแก่นแดนดินถิ่นอีสานเก่าแก่ ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะเดินทางไปไหว้พระสักการะขอพรที่วัดจังหวัดขอนแก่นที่นำมาฝากกันนี้ ก็ติดต่อไปตามช่องทางที่แนบไว้ให้กันได้เลย แล้วบทหน้าเรามาพบกับไปไหว้พระสักการะขอพรสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะไปสรรหามาฝากกันได้อีกในทุกสัปดาห์ จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อะไร ที่ไหนกันบ้าง เราต้องมาติดตามกันต่อ

อ่านจบแล้วอย่าลืมไปตามอ่าน บทความอื่นในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีข่าวสารต่างๆมาใหเอัพเดทกันทุกๆสัปดาห์ที่ baan8mongkol.com ไม่ว่าจะเป็น เช็ดควงที่ horoscope lucky item กับคนสายมู หรือ the magic ติดตามแฟนเพจ ทาง facbook และอย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

ประวัติหลวงปู่ดู่

พรหมปัญญโญ(โดยสังเขป) และพุทธานุภาพของเหรียญยันต์ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดู่ วัดสะแกตอนที่ 1

พระคุณเจ้าหลวงปุ่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยาเป็นพระสุปฏิปัณโณ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาต่อบรรดาศิษย์เป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าอายุสังขารจะล่วงโรยเพียงใดท่านก็เมตตาอบรมพร่ำสอนศิษย์ ตลอดจนผู้ในธรรมทั้งหลาย ที่เข้ามากราบนมัสการท่าน โดยไม่นึกถึงวัยของท่านเลย จนกระทั่งปัจฉิมวาระที่ท่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ ท่านก็ยิ่งให้ความเมตาต่อศิษย์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าในยามค่ำคืนที่ต้องพักผ่อน ท่านก็ยังเมตตาแสดงธรรมให้คณะศิษย์ที่เดินทางมานมัสการเสมอมาและยังให้ธรรมะโอวาท สติเตือนใจแก่ศิษย์ทั้งหลายว่า “ เวลาเหลือมากแล้วขอให้ทุกคนรีบปฏิบัติ

พระคุณเจ้า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเกิดเมื่อ 10 พฤษภาคม 2447  ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง ซึ่งตรงกับวันเพ็ญที่บ้านข้าวเท่า ตำบลข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โยมพ่อ ชื่อพุด โยมแม่ชื่อโยมพ่วง มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 3 คน หลวงปู่เป็นคนสุดท้อง ชีวิตในวัยเด็กของท่านขสดความอบอุ่น เพราะกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เยาว์วัย

       ในตอนที่ท่านเป็นทารก ซึ่งตอนนั้นโยมพ่อโยมแม่ยังมีชีวิตอยู่มีเหตุการณ์สำคัญที่บันทึกไว้ดังนี้ คือในคืนวันหนึ่งที่เป็นหน้าน้ำ ขณะที่บิดามารดาท่านกำลังทำขนมเตรียมขายอยู่นั้น ท่านที่ถูกวางอยู่บนเบาะที่นอกชานคนเดียว กลิ้งตกลงไปในน้ำทั้งคนทั้งเบาะ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวท่านไม่จมน้ำ แต่กลับลอยน้ำอยู่บนเบาะจนไปติดอยู่ที่ข้างรั่ว จนกระทั่งสุนัขที่บ้านท่านมาเห็นเข้าก็เห่าและวิ่งกลับไปกลับมาระหว่างทารกกับมารดาของท่าน จนกระทั่งมารดาของท่านเดินออกมาตาม ก็พบท่านลอยน้ำติดอยู่ข้างรั้ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มารดาเชื่อว่าท่านจะต้องเป็นผู้มีบุญกลับชาติมาเกิด

       หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เมื่อวัยเยาว์อาศัยกอยู่กับยายและพี่สาว ท่านได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนที่วัดกลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศน์ ธรรมประวัติ แถวๆบางปะอินนั่นเอง

เมื่ออายุได้ 21 ปี ก็ได้เข้าพิธีบรรพชา อุปสมบท ในวันที่ 10 พฤษภาคม ปี 2468 ที่วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อกลั่น เจ้าอาวาสวัดติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์  ท่านได้รับฉายาว่า พรหมปัญโญ เมื่อบวชได้พรรษาที่ 3 หลวงปู่ดู่ก็เดินธุดงค์ โดยมีสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นจุดหมายปลายทาง หลังจากเดินธุรงค์ผ่านไปได้ 3 เดือนจนกระทั่ง อาพาธจึงได้พักการเดินธุดงค์

หลวงปู่ตัดสินใจไม่รับกิจนิมนต์ไปนอกวัด ตั้งแต่ปี 2490 หลวงปู่ปฏิบัติในการทำวัตรเช้า ทำวัดเย็นอยู่สม่ำเสมอไมเคยขาด นอกจากนี้ท่านยังได้สอนหนังสือเด็กๆในโรงเรียนวัดด้วย

       ในคืนหนึ่งก่อนพ.ศ.2500 เล็กน้อย  เมื่อท่านเข้าจำวัด ท่านก็ฝันไปว่าได้ฉันท์ด่าว 3 ดวงในขณะที่ฉันท์ก็รู้สึกกรอบดี เลยฉันท์ไปทั้งหมด เมื่อตกใจตื่น ท่านจึงพิจารณาถึงนิมิตที่เกิดขึ้นก็เข้าใจได้ว่า แก้ว 3 ดวงนั้นคือ พระไตรสรณะคมณ์ ท่านจึงกล่าวออกมาว่า

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สารณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

เมื่อกล่าวจบ ก็เกิดอัศจรรย์ขึ้นในจิตท่าน มีความมั่นใจพระไตรสรณะคมนี้เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา การสมาทนศีล 5 ศีล 8 หรือการขอบรรพชาอุแสมบทก็ต้องกล่าวพระไตรสรณะคมนี้ ท่านจึงกำหนดเอาเป็นองค์ภาวนา

อย่าลืมคิดตาม ประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญญโญ(โดยสังเขป) และพุทธานุภาพของเหรียญยันต์ดวงเศรษฐี หลวงปู่ดู่ วัดสะแก  ตอนที่ 2 คุณจะได้ทราบถึงพลานุภาพของวัตถุมงคล และคำสอนที่สำคัญของหลวงปู่

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

พระพิฆเนศปางประทานพรโภคทรัพย์

พระพิฆเนศปางประทานพรโภคทรัพย์ เป็นองค์ที่ขอพรได้ทุกเรื่อง

แล้วเวลาที่เราจะขอเงินขอพร ให้เอามือไปรองรับตรงด้านไหโภคทรัพย์ พระพิฆเนศปางนี้จะเหมะกับทุกคน ไม่ว่าจะทำงานด้านธุรกิจค้าขาย หรือทำงานประจำก็บูขาได้หมด

หรือแม้กระทั่งจะประกอบกิจการร้านอาหาร ร้านเสริมสวยก็บูชาท่านได้เช่นกัน ซึ่งปางประทานพรโภคทรัพย์นี้ มีการสร้างรูปพระองค์ท่านขึ้นมาหลายสี อาทิ สีเนื้อ สีชมพู สีแดง สีฟ้า สีม่วง เป็นงานศิลปะที่แล้วแต่ใครจะชศรัทธาองค์ไหน

พระพิฆเนศปางประทานพรโภคทรัพย์ เป็นปางที่ คนเริ่มบูชาแรก ๆควรเริ่มที่ปางนี้ องค์พิฆเนตรชุกประทนพรโภคทรัพย์ชุดนี้ทำจำเนื้อเรชิ่น แต่มีการตกแต่งด้วยทอง และเม็ดคริสตัล เวลาจะขอพร ให้สวดคาถา 3 รอบว่า

       โอมศิขเน ศายะ นะมะฮา  จากนั้นกล่าวคำขอพรจากพระองค์ท่านได้เลย

เมื่อเราขอพรและได้รับพรแล้ว ก็นำของถวายซึ่งเป็นผลไม้สด นมสด และรูปปั้นหนูบริวารได้ ปางนี้สามารถบูชาไปเป็นองค์ประทนของที่บ้านหรือร้านค้าได้

ส่วนเรื่องของสีของพระองค์ท่านนั้น เราสามารถเลือกสีที่ถูกโฉลกได้ เลือกตามสีที่เห็นแล้วรู้สึกชอบ ก็จะขอพรอะไรจากท่านได้ง่าย เพราะถือว่าท่านดลใจให้เลือกองค์ท่านที่เหมาะกับคุณ โดยตามความเชื่อ องค์สีแดงจะมีอำนาจบารมีมาก สีชมพูเป็นเมตตามหาเสน่ห์

       แต่อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงของการบูชาองค์พระพิฆเนศ ไม่ว่าจะองค์ไหนปางใน ในมิติของความศรัทธานั้นสามารถบูชาได้ทุกองค์ทุกปาง เพราะไม่มีว่าจะเป็นปางไหน ทำจากวัสดุอะไรก็ล้วนแต่เป็นองค์สมมุติของพระองค์ท่านทั้งสิ้น ส่วนรูปั้นต่างๆทีสร้างขึ้นมาก็เป็นมิติแกห่งตัวแทนเพื่อให้ได้ระลึกถึงพระองค์ด้วยคสามศรัทธา และพลังศรัทธานั้นจะส่งพลังบวกให้เรามีพลังในการดำเนินชีวิตในหน้าที่การงาน งานธุรกิจ จนปราบความสำเร็จ แป้นว่าถ้าคุณศรัทธาปางไหน องค์ไหน เห็นแล้วรู้สึกชอบใจในมิติของความเป็รศิลปะคุณก็เลือกองค์นั้นไปบูชาด้วยความศรัทธา

       พระพิฆเนศเป็นเทพที่มีพลังแห่งความเป็นศิลปะ และความประสบความสำเร็จ ร้านค้าต่างๆจำนวนมากจึงนำพระองค์ท่านไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลและพลังใจที่เกิดจากความศรัทธาของผุ้บูชาตามตำนานท่านทรงโปรดการรับประทานขนมต้มไส้มะพร้าวเป็นอย่างมาก การบูชาพระองค์ท่าน นอกจากผลไม้ กล้วย น้ำดื่ม นมสด สามารถเพิ่มเติมขนมต้มได้อีกอย่างก็ได้

       พรของท่านจะบังเกิดผลกับคุณหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณด้วยว่าได้นำพลังศรัทธาเชิงบวกของพระองค์ท่านไปสร้างเส้นทางที่ก้าวสู่ความสำเร็จของตัวคุณเงด้วยหรือเปล่า ?  เพราะถ้าท่านขอพรจากพระองค์ท่านแล้วไม่ได้รับพรนั้น ท่านจะโทษว่าพระองค์ผิดอย่างนั้นหรือ

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

พระปิดตาดีอย่างไร

วัตถุมงคลอย่าง พระปิดตานั้น นับว่าได้รับความนิยมจากนักสะสมเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะที่จัดสร้างโดยพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า อาทิ พระปิดตาของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี ราขาแห่งพระปิดตาเนื้อผง หรือพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี จัดเป็นพระปิดตายอดนิยม ระดับต้นๆของประเทศไทย

การบูชาแขวนพระปิดตานั้นนับว่าเป็นที่นิยมทั้งชายและหญิงเนื่องด้วยขนาดขององค์พระปิดตานั้น ส่วนใหญ่จะมีขนาดกำลังพอดี ไม่ใหญ่มากและมีน้ำหนักเบา มวลสารที่สำคัญโดยส่วนใหญ่มักจะมาจากผงพุทธคุณ และว่านต่างๆ ลักษณะขององค์พระ เมื่อนำไปเลี่ยมอัดกรอกแล้ว มีความสวยงามโดดเด่น สะดุดตาเป็นอย่างมาก ทำให้หลายคนอยากจะทราบถึงพุทธคุณพระปิดตาว่าท่านมีพุทธคุณในด้านใด และมีข้อห้ามในการแขวนบูชาอย่างไรกันบ้าง

     ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า พระปิดตาคือพระอะไร และเหตุใดจึงเรียกว่าพระปิดตา

พระปิดตาคือพระพุทธรูปขนาดเล็ก หรือพระเครื่องลักษณะขององค์พระจะมีการยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ มีประวัตเล่าว่า ท่านเป็น อัครสาวกองค์หนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่าพระควัมปติ หรือพระมหากันจายนะ ซึ่งลักษณะการยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตานั้น แสดงออกถึงนัยยะสำคัญคือ ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งปวง เป็นการดับสนิทของอาสวะกิเลสทั้งหลายที่ไม่อาจมาแผ้วพานท่านได้เลย พระควัมปติ หรือพระมหากันจายนะนั้น

ตามประวัติเล่ากันว่าท่านนั้นเป็นผู้ที่มีรูปงาม มีผิวเหลืองดุจดั่งทอง ทำให้พระภิกษุอื่นๆเห็นท่านแต่ไกล เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระพุทธเจ้าเสด็จมา จึงได้ทำการลุกขึ้นยืนต้อนรับบ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งมีเหตุประหลาดเกิดขึ้น มีเศรษฐบุตรคนหนึ่งเห็นพระมหากันจายนะ ก็คิดอกุศลขึ้นว่า หาดตนนั้นได้ภรรยาที่มีรูปงามอย่างท่านก็จะคงจะดี ทันใดนั้นเขาก็ได้กลายเป็นหญิงขึ้นในทันที ทำให้เขาอับอาย จนต้องย้ายถิ่นที่อยู่เดิมไปอยู่เมืองอื่น ซึ่งในกาลต่อมา เศรษฐบุตรผู้นี้ก็ได้เข้ามาขอขมาต่อพระกันจายนะที่ได้ล่วงเกินอกุศลต่อท่าน จึงได้กลัลกลายมาเป็นเพศชายดังเดิม

ท่านพระมหากันจายนะเถระขึงรำพันว่า อันความสวยงามในรูปกายของท่านนี้ทำให้เทพเทวดาผู้คนต่างหลงใหลเป็นของมีโทษ เรียกว่ากามวิตก เป็นหนทางแห่งความมัวหมอง เราควรจะแปรเปลี่ยนสรีระเสียใหม่ให้สิ้นความสง่างาม รำพึงดังนั้นแล้วท่านจึงทรุดกายนั่งลง คู้บัลลังก์ ยกหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ อธิษฐานเนรมิตร่างกายให้อ้วนเตี้ย ม่อต้อ มีพุงพลุ้ย สิ้นซึ่งความสง่างามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดว่าท่านคือ พระพุทธเจ้า และผู้คนที่เห็นท่านก็ไม่เกิดอิจฉาริษยานั่นเอง

     โปรดติดตามบทความ “แขวนพระปิดตาดีอย่างไร ในตอนที่ 2 “ ซึ่งจะกล่าวถึง พระพุทธคุณของพระปิดตา และข้อห้ามเมื่อบูชาพระปิดตา

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

พาราณสี…

ตามรอยพระพุทธเจ้า ณ อินเดีย

ถ้าพูดถึงเมืองพาราณสี ซึ่งเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับสังเวชนียสถาน เพราะเมืองพาราณสีไม่ได้ห่างจากเมืองสารนาถ ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในสังเวชนียสถานมากนัก ในขณะเดียวกันเมืองพาราณสีก็เป็นเมืองเก่าแก่ของโลก มีแม่น้ำคงคา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของอินเดีย มีความยาว 5 กิโลเมตรไหลผ่านกลางเมืองมีฆาต (Ghat) หรือท่าน้ำมากกว่า 80 ฆาต โดยชาวฮินดูเล่าต่อๆ มาว่า แม่น้ำคงคามีต้นกำเนิดจากสระอโนดาต ในดินแดนหิมพานต์ พวยพุ่งผ่านเศียรพระศิวะ เชื่อมต่อกันระหว่างเมืองสวรรค์ และโลกมนุษย์

เมืองพาราณสีดึงดูดผู้คนให้มาที่นี่เพื่อทำพิธีบูชาเทพเจ้า มาอาบน้ำชำระบาป มาเพื่อขอพร มาตายเพื่อปลงศพริมแม่น้ำคงคา เชื่อกันว่าทำให้ผู้ตายได้เดินทางสู่สรวงสวรรค์ตามตำนาน เมืองพาราณสีเป็นเมืองของพระศิวะ หลังจากอภิเษกกับพระแม่อุมาเทวี (ชายาเอก) ทั้งคู่เลือกมาอยู่ที่นี่ เพราะเป็นเมืองแห่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ หากใครได้มาเยือนเมืองพาราณสีจะรู้สึกถึงความแปลก อัศจรรย์ใจ และการตื่นรู้ในความจริงของสัจธรรมมากเช่นกัน

       ท่าน้ำหนักที่เก่าแก่และวุ่นวายที่สุดคือ…ท่าทศาศวเมธ (เมนฆาต) ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างฆาตทั้งหมดริมน้ำ เป็นท่าน้ำที่ผู้คนลงมาอาบน้ำ ลอยกระทงบูชาพระแม่คงคา ทำพิธี “คงคาอารตี” บูชาพระแม่คงคาด้วยดวงไฟ พิธีนี้จะเริ่มหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน เป็นประจำทุกวัน มีพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธี เสียงบทสวด เสียงระฆังดังประกอบพิธีตลอดเวลา คนในพื้นที่ที่มาร่วมพิธี จะอยู่จนจบพิธี รอรับผลไม้ที่ผ่านการทำพิธีเอาไปกินเป็นสิริมงคล ส่วนท่าหริศจัณทร์ และท่ามณีกรรณิการ์ ทั้ง 2 ท่าเป็นท่าเผาศพที่อยู่คนละด้านกัน เผาศพแบบโบราณใช้พื้นที่เผา ไฟที่ลุกไหม้จากฟืน จะมีควันโขมงลอยออกมา เปลวไฟจากเชิงตะกอนของทั้ง 2 ท่านี้ สว่างไสวตลอดไม่เคยดับ เต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นญาติๆ มาทำพิธี ใกล้ๆ กับ 2 ท่านี้มีบ่อน้ำโบราณสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชื่อว่า “มณีกรรณิการ์กุณฑ์” เป็นบ่อน้ำขั้นบันได เดินลงไปถึงขั้นเบื้องล่างได้

นอกจากนี้เมืองพาราณสีก็ยังมีอีกท่าที่น่าสนใจไม่แพ้กับสายหลักเลยก็คือ ท่าซินเด ซึ่งมีวัดจมน้ำ โดยวัดจมน้ำเป็นเทวาลัยที่สรรเสริญพระศิวะเทพ จะมีลักษณะตั้งเอียง จมอยู่ในน้ำครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะอยู่เหนือน้ำเพื่อให้มองเห็นได้ด้วยสายตา รวมถึงท่าเกดาร เป็นท่าที่ด้านบนเป็นที่ตั้งเทวาลัยสรรเสริญพระศิวะเช่นกัน เป็นท่าน้ำที่มีสัญลักษณ์ขององค์พระศิวะโดยแท้ จะมีศิวลึงค์ที่ชาวอินเดียนิยมบูชากันมากขึ้น

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

” พญาครุฑ “

ทำไมถึงต้องบูชา พญาครุฑ บูชาแล้วดีอย่างไร

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมไปที่ไหน เห็นแต่คนบูชาพญานาค แล้วพญาครุฑ สามารถบูชาได้ไหม มีข้อดีของการบูชาอย่างไรบ้าง

       ตามตำนานความเชื่อ พญาครุฑ ได้รับพรจากพระนารายณ์ให้มีความเป็นนอมตะ มีพลังเหนือทุกสิ่ง จึงถูกนำมาบูชาและใช้แทนตราสัญลักษณ์ต่างๆ ตั้งแต่ตราพระมหากษัตริย์ ทหาร ตำรวจ เครื่องหมายของหน่วยราชการต่างๆ และถ้าคุณเป็นลูกหลานที่มีสายเลือดพญาครุฑ มีพญาครุฑคุ้มครอง คุณจะมีบุคลิกที่คล่องแคล่วว่องไว ไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเองไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ลักษณะภายนอกดูดุ หยิ่ง น่าเกรงขาม ทั้งที่จริงๆแล้วคุณเป็นคนที่จิตใจดี จริงใจนอบน้อมถ่อมตน กตัญญูรู้คุณ รักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง ไม่ชอบถูกเอาเปรียบ และไม่ชอบเอาเปรียบใครเช่นกัน

ข้อดีของการบูชาพญาครุฑ มีดังนี้

       พญาครุฑเปรียบดังมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มีสิทธิ์ มีอำนาจเด็จขาด ทำให้มีพลังเสริมบารมีให้แก่ผู้บูชา และการบูชาพญาครุฑนั้นยังสามารถลบล้างอาถรรพ์ในทางคุณไสยทั้งปวง สามารถปัดเป่าเสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจไม่สามารถย่างกายเข้ามาใกล้ผูที่บูชา รวมทั้งเป็นสื่อของความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งตำแหน่งหน้าที่การงาน ยศถาบบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ช่วยปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตรายทั้งปวง ช่วยเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ผู้บูชาและครอบครัว มีโชคลาภ ทำมาค้าขายดี กิจการรุ่งเรือง สัตว์ร้าย อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงกลัวบารมีของพญาครุฑ และทั้งหมดนี้คือตำตอบว่าทำไมจึงต้องบูชาพญาครุฑ

วิธีบูชาพญาครุฑ

       เพราะพญาครุฑเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง เป็นมหาอำนาจ ครุฑเป้นสัตว์กายสิทธิ์ ฆ่าไม่ตายเป็นอมตะ สำหรับคนไทย พญาครุฑถือเป็นของสูง เสมือนหนึ่งเป้นตัวแทนขององค์พระมหากษัตริย์ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

       การบูชาพญาครุฑหากผู้ครอบครองบูชาได้ถูกต้องและเหมาะสมชีวิตก็จะพบตาความรุ่งเรือง

       ขั้นตอนการบูชาเมื่อได้องค์พญาครุฑมา

  • ควรอัญเชิญพญาครุฑเข้าบ้านก่อนเที่ยง
  • จุดธูป 5 ดอก บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขออนุญาตนำองค์พญาครุฑมาประทับณ สถานที่แห่งนี้
  • จัดเครื่องบวงสรวงรับ โดยให้จุดธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ มาลัย 1 พวง ผลไม้ 1-3 อย่าง ถั่วงา 1 ถ้วย น้ำเปล่า 1 แก้ว งดถวายของคาวเหล้า บุหรี่)
  • สามารถนำองค์พญาครุฑ ร่วมหิ้งกับพระพุทธรูปได้ โดยให้วางบนพื้นหิ้งที่ต่ำกว่าองค์พระพุทธ
  • สามารถวางร่วมหิ้งกับพระพิฆเนศ หรือพญานาคได้โดยไม่ต้องกลัวอาถรรพ์ใดๆ แล้วทำการสวดอัญเชิญพญาครุฑดังนี้

ตั้งนะโม 3 จน แล้วกล่าวบทอัญเชิญดังนี้

คะรุปิจะ กิติมันตัง มะอะอุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย

นะได้เงิน นะได้ทอง นะเจริญ นะมั่นคง นะได้ทรัพย์ นะเมตตา

อิตืปิโสภะคะวา พระพุทธเจ้าสั่งมา พญาครุฑล้างอาถรรพ์

อิติคงเนื้อ อิติคงหนัง พญาครุฑยันติ อภิปูจายามิ พญาครุฑจะผุด มนุษย์จะเกิด พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท นะปัจจะโยโหนตุ

     ส่วนของที่จะจัดถวายให้จัดตามความเหมาะสม จะถวายเพียงผลไม้อย่างเดียวก็ได้ หรือจะเป็นขนมนมเนยที่จัดถวายพระพิฆเนศก็ได้ แต่สิ่งสำคัญต้องเปลี่ยนน้ำถวายท่านทุกวัน ให้ทำบุญถวายสังฆทานอย่างน้อยเดือนละครั้ง ให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และเป็นผู้มีกตัญญูต่อบิดามารดา หรือผู้มีพระคุณ ถ้าท่านทำถูกต้องดังที่กล่าวมานี้ เชื่อได้ว่าองค์พญาครุฑจะบารมีปกป้องให้ท่านและครอบครัวพบกับความสุขความเจริญในทุกๆก้านของชีวิต ชีวิตจะประสบความสำเร็จและมั่งคงสืบไป

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
The magic

วิหารทองคำ (Golden Temple)

ศาสนสถานล้ำค่าของชาวซิกข์ ประเทศอินเดีย

ชาวซิกข์และนักท่องเที่ยวหลายพันคน เดินทางมาที่เมือง อมฤตสาร์ ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ตั้งอยู่ในรัฐปัญจาบ เพื่อเยี่ยมชมวิหารทองคำ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญมากที่สุดของศาสนาซิกข์ บทนี้จึงขอนำ

วิหารทองคำ ศาสนสถานล้ำค่าของชาวซิกข์ ประเทศอินเดีย มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เราเดินทางไปที่ประเทศอินเดียด้วยกันเลย

วิหารทองคำแห่งนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี คริสตศักราช 1570 เพื่อให้ชาวซิกข์ใช้เป็นสถานที่ในการร่วมชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง และก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1601 โดยสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการก่อสร้างวิหารทองคำแห่งนี้ก็มีความโดดเด่น ซึ่งแทนที่จะถูกสร้างบนรากฐานที่มีระดับสูง ตามลักษณะเหมือนสถาปัตยกรรมการสร้างวิหารของฮินดู วิหารทองคำแห่งนี้กลับถูกสร้างบนรากฐานที่ต่ำกว่าระดับราบของพื้นที่รอบข้าง รวมถึงมีการสร้างประตูทางเข้าออกทั้งสี่ทิศ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับผู้มาเยือนทุกคนโดยไม่แบ่งแยกชนชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา เพศ และชาติตระกูลแต่อย่างใด

ตัววิหารนั้น ชั้นแรกสร้างจากหินอ่อน ผนังภายในแกะสลักเป็นรูปดอกไม้สวยงาม ส่วนชั้นสองขึ้นไปจนถึงยอดโดมเคลือบด้วยทองคำ ด้านในเป็นที่เก็บรักษาพระมหาคำภีร์ อันเป็นหลักธรรมสูงสุดจากองค์พระศาสดาของชาวซิกข์ โดยจะมีหัวหน้านักบวชทำหน้าที่อ่านคำสอนผ่านเครื่องกระจายเสียงทุกวัน

วิหารทองคำแห่งนี้ ตั้งตระหง่านอยู่กลางบ่อน้ำโซราวอร์ อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวซิกข์ทุกคนปรารถนาที่จะได้ลงไปอาบน้ำในสระแห่งนี้ เพื่อเป็นการชำระล้างจิตวิญญาณ บ่อน้ำนี้กว้าง 150 เมตร ล้อมรอบวิหารทั้งสี่ด้าน ซึ่งภาพของวิหารทองคำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสระน้ำที่ล้อมรอบนั้น เป็นภาพที่ดูสง่างามประทับใจผู้มาเยือนทุกคน  

ปัจจุบัน นอกจากนักแสวงบุญชาวซิกข์แล้ว เมืองอัมริตสาร์ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในอินเดียและต่างประเทศ ที่มาเยือนเมืองอัมริตสาร์และวิหารทองคำมากกว่า 100,000 คนต่อสัปดาห์

เมืองอมฤตสาร์ มีสนามบินนานาชาติและจุดเชื่อมต่อรถไฟที่ครอบคลุมเมืองสำคัญอื่นๆทั่วอินเดีย และเนื่องจากเป็นเมืองยอดนิยมแห่งหนึ่ง จึงมีการจราจรที่ติดขัด ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ คือใช้บริการรถสามล้อ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการมาเยือนคือ ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งมีอากาศเย็นสบาย และแจ่มใส น่าไปท่องเที่ยวมากที่สุด

วิหารทองคำ ตั้งอยู่กลางน้ำ ในเมืองอมฤตสาร์ รัฐปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย ที่นี่ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญของศาสนาซิกข์ วิหารทองที่นี่มีประตูทางเข้า 4 ด้าน ในตอนกลางคืนจะมีแสงไฟส่องมาที่ตัวของวิหาร เป็นสีเหลืองทอง ถือเป็นอีกสถานที่สำคัญที่สวยงามมากๆของอินเดีย  

นี่ก็คือ วิหารทองคำ (Golden Temple) ศาสนสถานล้ำค่าของชาวซิกข์ ประเทศอินเดีย ที่นำมาฝากกัน ใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ประเทศอินเดีย อย่าลืมแวะไปไหว้ขอพรสักการะที่นี่ด้วย สวยสดงดงามอร่ามไปด้วยทองคำและความศรัทธาอันล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำ จุดประสงค์หลักของการมาขอพรที่นี่ คือการมาชำระล้างจิตวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์ด้วยน้ำศักดิ์สิทธิในวิหารทองคำแห่งนี้นั่นเอง การชำระล้างจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ไม่ว่าเราจะตั้งใจทำสิ่งใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายดายอย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ว่าเราจะขอพรสิ่งใดการมีจิตใจที่บริสุทธิ์สะอาดจะทำให้เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราขอตามไปด้วย

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

                                            

Categories
The magic

วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร

ไปไหว้พระ วัดสวยเก่าแก่ในกรุงเทพ ฯ

วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร วัดสวยเก่าแก่ในกรุงเทพ ฯ คนไทยเรายังมีคติความเชื่อที่ว่า การมาไหว้พระวัดระฆัง จะทำให้ มีคนนิยมชมชื่น มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี เหมือนกับชื่อของวัดระฆังนั่นเอง ที่เวลาเราตีระฆังเสียงของระฆังจะดังกังวานไปไกลมาก บทนี้จึงขอนำ ไปไหว้พระ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร วัดสวยเก่าแก่ในกรุงเทพฯ มาฝากทุกคนกัน ใครที่อยากจะไปไหว้พระที่ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร กันแล้ว เรามาติดตามกันเลย

การเดินทางของเราในวันนี้ก็คือ การไปขึ้นเรือข้ามฝากที่ ท่าช้าง เพื่อข้ามฟากไปลงที่ ท่าวัดระฆัง หรือใครจะขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาไปก็ได้ ที่ท่าเรือเราก็จะเห็นคนมาให้อาหารปลา และนกพิราบกันเยอะแยะมากมาย

ภายในวัดระฆัง มีพระอุโบสถที่สวยงาม เป็นทรงแบบรัชกาลที่ 1 ประดิษฐาน หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า เป็นพระประธาน โดยเป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ  พระประธานองค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก ซึ่งครั้งหนึ่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาพระราชทานผ้ากฐิน ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที” จึงเป็นที่มาของชื่อพระประธานนั่นเอง

นอกจากนี้ ภายในอุโบสถยังมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่มีเรื่องราวของต่างๆ ของพระพุทธเจ้า เป็นภาพจิตรกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าฝีมืองดงามมาก มีชีวิตชีวาอ่อนช้อย ซึ่งภาพเหล่านี้เขียนโดย พระวรรณวาดวิจิตร (ทอง จารุวิจิตร) จิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ 6 ในพ.ศ. 2465 ในช่วงบูรณะวัดระฆังแห่งนี้นั่นเอง

ปูชนียสถานที่สำคัญอีกแห่งของวัดระฆังก็คือ พระปรางค์ วัดระฆัง  ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระปรางค์ที่ทำถูกแบบแผนที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยทรงมีพระราชศรัทธาสร้างพระปรางค์ พระราชทานร่วมกุศลกับสมเด็จพระพี่นางพระองค์ใหญ่ (สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมพระเทพสุดาวดี) โดยเป็นพระปรางค์แบบ สถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ยุคต้นที่งดงาม จนยึดถือเป็นแบบฉบับของพระปรางค์ที่สร้างในยุคต่อมานั่นเอง

วัดระฆังโฆสิตาราม ฯ มี หอพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนัก และหอประทับนั่งของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติแล้ว ภายในมีตู้พระไตรปิฎกขนาดใหญ่เขียนลายรดน้ำ 2 ตู้ ประดิษฐานไว้ในหอด้านเหนือ 1 ตู้ หอด้านใต้ 1 ตู้

ช่องทางการติดต่อ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพ

ที่อยู่ : ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ ฯ

เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.

เว็บไซต์ : facebook.com/watrakhang.official

นี่ก็คือ ไปไหว้พระ วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร วัดสวยเก่าแก่ในกรุงเทพฯ ที่นำมาฝากกัน ใครที่อยากจะไปไหว้พระที่นี่ ก็ติดต่อไปตามช่องทางที่แนบไว้ให้ด้านบนกันได้เลย

ติดตามบทความ The Magic ในทุกสัปดาห์ได้ที่ baan8mongkol.com

FB : รวมพลคนบันเทิง